เมนู

พระนาคเสนจึงถวายพระพรว่า มหาราช ดูรานะบพิตรพระราชสมภาร พระสาม
โพธิสัตว์นี้เป็นอิสินิมิต คือพระฤๅษีทั้งสองเสี่ยงให้เกิด แล้วเป็นทั้งเทพนิมิต คือพระอินทร์
นิมนต์ให้เกิด เป็นบุญนิมิต คือพร้อมด้วยบุญกุศล อนึ่งเล่า ดูรานะบิตรพระราชสมภาร
เทพบุตรที่พระอินทร์นิมนต์ให้เกิดนี้ มี 4 พระองค์ คือพระยากุสนราชองค์ 1 ท้าวมหาปนาท
องค์ 1 พระสุวรรณสามองค์ 1 พระเวสสันดรองค์ 1 บพิตรพระราชสมภารพึงทราบพระทัย
ด้วยประการดังนี้
สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดี ได้ทรงฟังพระนาคเสนวิสัชนามาฉะนี้ ไม่มี
ความสงสัยก็ซ้องสาธุการว่า คัพภาวักกันติปัญหานี้ลึกล้ำคัมภีรภาพรกชัฏฟั่นเฝือเหลือที่
ธรรมกถึกจะแก้ไข ผิดจากพระผู้เป็นเจ้าไปแล้วเต็มทีอยู่ พระผู้เป็นเจ้ามาแก้ไขด้วยสันนิบาตให้
ประหลาดออกไป โยมเข้าใจแล้ว โยมจะกำหนดจดจำไว้ เพื่อกุลบุตรอันเกิดมาเป็นปัจฉิมา
ชนตาในอนาคตกาลข้างหน้านั้น
คัพภาวักกัติปัยหา คำรบ 6 จบเท่านี้

สัทธัมมอันตธานปัญหา ที่ 7


สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่
พระนาคเสนผู้ปรีชา โยมนี้คิดไปให้วิมัติสงสัยนักหนา ด้วยสมเด็จพระบรมนายกโลกนาถ มี
พระพุทธฎีกาตรัสไว้แก่พระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์ พระสัทธรรมของตถาคต จะตั้งอยู่นาน
ประมาณกำหนดห้าพันปี พระพุทธองค์ตรัสเป็นคำขาด ครั้นมาเมื่อจะใกล้ดับขันธ์เข้าสู่พระ
มหาปรินิพพานนั้น สมเด็จพระสัพพัญญูเจ้ามีพระพุทธฎีกาตรัสกับสุภัททะปริพพาชกว่า ดูกร
สุภัททะ แม้ว่าอันเป็นโอรสของตถาคตนี้ มีศรัทธาปรนนิบัติเป็นสัมมาปฏิบัติอยู่ได้ตราบใด
โลกจะได้สูญจากพระอรหันต์หามิได้ นี่แหละมีพระพุทธฎีกาตรัสไว้เป็นคำขาด เมื่อวันที่จะเสด็จ
เข้าสู่พระมหาปรินิพพาน ตกว่าพระพุทธฎีกาประทานไว้เป็นคำสองฉะนี้ โยมหารู้ที่จะกำหนด
คำไหนให้แน่ลงได้ไม่ ครั้นจะเชื่อเอาคำเดิมที่ตรัสว่า พระสัทธรรมของตถาคตจะตั้งอยู่กำ
หนดถ้วนห้าพันปีนั้นเล่า คำที่พระพุทธองค์เจ้าตรัสว่า ถ้าพระภิกษุความอุตสาหะปรนนิบัติ
เป็นสัมมาปฏิบัติอยู่ตราบใด โลกไม่เปล่าจากพระอรหันต์ก็จะผิด ครั้นจะเชื่อเอาคำภายหลังก็
จะผิดกันกับคำเดิมที่โปรดไว้ โยมคิดไปก็สงสัยนักหนา ปัญหานี้เป็นอุภโตโกฏิ มาถึงแก่พระ
ผู้เป็นเจ้าแล้ว พระผู้เป็นเจ้าจงโปรดวิสัชนาให้โยมสิ้นสงสัยในกาลบัดนี้